27/10/58

วิธีแก้ปัญหาตาพร่ามัว เมื่อต้องจ้องหน้าคอมฯนานๆ

วิธีแก้ปัญหาตาพร่ามัว เมื่อต้องจ้องหน้าคอมฯนานๆ
วิธีแก้ปัญหาตาพร่ามัว เมื่อต้องจ้องหน้าคอมฯนานๆ
ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน ต่างก็กลายเป็นสังคมก้มหน้ากันหมด แต่สิ่งที่ตามมา ที่ทำให้เป็นปัญหาก็คือ อาการตาพร่ามัว จากการเกิดอาการที่เรียกว่า "วุ้นในตาเสื่อม"
ปกติอาการนี้จะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุราวๆ 50 ปีขึ้นไป แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาท ในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ทำให้ต้องเจอกับภาวะเสี่ยงในการเป็นโรควุ้นในตาเสื่อม
สาเหตุหลักๆก็มาจาก การเพ่งหรือจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์นานๆ ในที่ๆมีแสงน้อย  ทำให้เกิดวุ้นในตาเสื่อมเร็วกว่า การอ่านหนังสือผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือตัวอักษรที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ LCD ไม่เหมือนตัวอักษรบนแผ่นกระดาษ ทำให้สายตาเราเลื่อนขึ้นๆลงๆอยู่ตลอดเวลา ทำให้สายตาทำงานหนักกว่าการอ่านหนังสือแบบปกติ

อาการของโรควุ้นในตาเสื่อม

เป็นหนึ่งใน โรคออฟฟิศซินโดรม ซึ่งจะมีอาการดังต่อไปนี้

  1. เวลาลืมตา เราจะเห็นเป็นคราบดำๆ เหมือนมีหยากไย่หรือใยแมงมุมลอยไปลอยมา เหมือนมีคราบติดกระจก และจะยิ่งเห็น(คราบ)ชัดขึ้น เมื่อมองไปที่พื้นที่สีขาว
  2. มักจะเห็นจุดลอยๆมากขึนจนเริ่มรบกวนการใช้ชีวิตมากขึ้น
  3. เห็นแสงระยิบระยับคล้ายๆแสงแฟลช
  4. สายตาพร่ามัวลงทุกวัน เหมือนมีม่านดวงตาบังเป็นแถบๆ
  5. ในรายที่มีอาการหนัก อาจจะถึงขั้นประสาทตาฉีกขาด จะมองเห็นแสงแฟลชในที่มืด ไม่ว่าจะลืมตาหรือหลับตา ทำให้รบกวนการมองเห็นอย่างมาก
หากพบอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาจักษุแพทย์โดยดวน เพราะเสียงต่อการที่จะตาบอดได้ หากปล่อยทิ้งไว้นาน

วิธีบำรุงดวงตา

  1. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะวิตามิน เอ และอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แครอท ผักบุ้ง ตำลึง ฟักทอง คะน้า มะม่วงสุก มะละกอ เป็นต้น
  2. งดสูบบุหรี่
  3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  4. ควรพักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง พัก 5-10 นาที แล้วค่อยลงมือทำงานต่อ
  5. หากมีสายตาที่ผิดปกติ เช่น สายตาสั้น ควรสวมแว่นตาที่มีเลนส์ที่เหมาะกับสายตาของเรา ส่วนใครที่ใส่คอนแทคเลนส์ ควรรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อย่าใส่เกิน 6-8 ชั่วโมง และอย่าใส่นอนเป็นอันขาด