![]() |
Why ทำไมต้องเป็น"ฟักทอง"ในวันฮาโลวีน |
ตามตำนานของครอบครัวชาวไอริช ได้เล่าเอาไว้ว่า แจ๊คจอมตีด ซึ่งมีอาชีพเป็นนักเล่นกลจอมขี้เมา อยู่มาวันหนึ่งเขาได้หลอกให้ปีศาจขึ้นไปบนต้นไม่ และเขียนกากบาทไว้ทำให้ปีศาจลงมาไม่ได้ จากนั้นเขาได้ทำข้อตกลงว่า "ห้ามนำสิ่งไม่ดีมาหลอกเขาอีก" แล้วเขาจะปล่อยให้ปีศาจลงจากต้นไม่ และเมื่อแจ๊คตายลงเขาไม่ต้องการที่จะขึ้นสวรรค์ แต่ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธที่จะลงนรก ปีศาจจึงให้ถ่านที่กำลังคุกรุ่นแก่แจ๊ค เพื่อเอาไว้ไล่ความหนาวเย็นท่ามกลางความมืดมิด และแจ๊คได้นำถ่านนี้ใส่ไว้ในหัวผักกาด Turnip ที่เจาะตรงกลางไว้เพื่อให้ไฟลุกสว่างได้นานขึ้น หลังจากนั้นชาวไอริชจึงแกะสลักหัวผักกาด Turnip และใส่ไฟในด้านใน อันเป็นสัญลักษณ์ของวัน Halloween เพื่อระลึกถึง "การหยุดยั้ง" หรือ Trick or Treat เพื่อส่งผลบุญให้กับญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว และเพื่อทำบุญวันปีใหม่ไปด้วย
![]() |
Why ทำไมต้องเป็น"ฟักทอง"ในวันฮาโลวีน |
แต่เมื่อเทศกาล Halloween เขามาถึงอเมริกา ชาวอเมริกันพบว่าฟักทองนั้นหาง่ายกว่าหัวผักกาด Turnip จึงเปลี่ยนมาเป็นฟักทองแทน นี่คือเหตุผลว่าทำไมวัน Halloween ถึงใช้แต่ฟักทอง
ส่วนเรืองของ Trick or Treat ในอเมริกานั้น เป็นการละเล่นชนิดหนึ่งของเด็กๆ เพราะในวันนั้นตามบ้านเรือนจะตกแต่งด้วยโคมไฟฟักทองและตุ๊กตาหุ่นฟาง ที่เป็นส่วนหนึ่งของประเพณีการเก็บเกี่ยว Harvest
ในขณะเดียวกันก็จะเตรียมขนมหวานที่ทำเป็นรูปเม็ดข้าวโพดสีขาวเหลืองส้มในเม็ดเดียวกัน เรียกว่า Corn Candy ส่วนเด็กๆก็จะแต่งตัวแฟนซีเป็นภูติผีต่างมาเคาะตามประตูบ้าน โดยเน้นบ้านที่มีโคมไฟฟักทองประดับ เพราะมีความนัยว่า บ้านนี้ยินดีต้อนรับพวกภูติผีตัวน้อยๆ พร้อมกับถามว่า "Trick or Treat" หากเจ้าบ้านตอบว่า Treat ก็จะต้องมอบขนมหวานให้กับภูติตัวน้อยๆเหล่านั้น หรือหากเจ้าบ้านตอบว่า "Trick" เพื่อท้าทายให้ภูติตัวน้อยได้แสดงหลอกอะไรก็ได้ แล้วก็จบลงด้วยการ "Treat"
![]() |
Why ทำไมต้องเป็น"ฟักทอง"ในวันฮาโลวีน |