12/8/55

5 โรคที่กำลังคุกคามหนุ่มสาวชาว Office

มนุษย์เงินเดือนที่มีออฟฟิศเป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง มีอุปกรณ์สำนักงานทันสมัยครบครันที่ดูเหมือนสบายนั้น กลับกำลังเชื้อเชิญโรคภัยไข้เจ็บมาสู่ร่างกายโดยที่เราแทบไม่รู้ตัว ด้วยสภาวะการทำงานที่ต้องเร่งรีบและแข่งขันสูง ทำให้เราสร้างปัญหาสุขภาพให้ตัวเองมากมาย ถ้าไม่ปรับ lifestyle วันหนึ่งข้างหน้าโรคภัยเหล่านี้อาจมาเยือน ไม่ว่าเราจะยินดีหรือไม่ก็ตาม

1. ออฟฟิศซินโดรม 
    เราพบว่ามีเพื่อนร่วมงานที่เจ็บป่วยด้วยกลุ่มอาการของออฟฟิศซินโดรมมากขึ้น คือปวดเกร็งตามกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เช่น หลัง ไหล่ บ่า ต้นคอ บางคนมีอาการปวดข้อมือ มือชา นื้วชา หรืออาจมีสายตาพร่ามัว ตาแห้ง ปวดศีรษะ ปวดไมเกรน อาการเบื้องต้นเหล่านี้อาจทำให้รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว แต่ถ้ายังเมินเฉยหรือมัวแต่คิดว่าเดี๋ยวหายหรือทนไปก่อน อาจลุกลามกลายเป็นกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง หรือรุนแรงถึงขั้นหมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือกระดูกทับเส้นประสาทได้
   ปรับไลฟ์สไตล์ 

  • ปรับสภาพโต๊ะทำงานใหม่ : ให้ด้านขวาของโต๊ะปล่อยโล่ง เพื่อความสะดวกต่อการเคลื่อนไหวในการหยิบสิ่งของต่างๆ ควรเลือกโต๊ะทำงานที่มีระดับพอดีกับข้อศอก ส่วนเก้าอื้ควรเป็นแบบปรับขึ้นลงได้ มีพนักพิงที่สามารถรองรับศีรษะด้วย ควรหาที่รองรับข้อมือ ส่วนจอคอมพิวเตอร์ควรตั้งให้หันตรงมาด้านหน้า เลือกจอแบบ LCD เพื่อลดการเพ่งสายตา
  • เปลี่ยนนิสัยการนั่งทำงาน : พยายามเตือนตัวเองให้นั่งหลังตรง ชิดพนักพิง พักสายตาจากหน้าจอคอมฯ และเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 20-30 นาที รวมทั้งให้เวลากับการบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆด้วย เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อตึงและเกร็งจนเกินไป สำหรับคนที่ใช้ Notebook อาจหาหมอนหรือหนังสือมาช่วยประคองหลังและหนุนตัวเครื่องให้ได้ระดับที่เหมาะสม
  • ไม่เครียด :  หาเวลาสงบให้กับตัวเองสัก 5-10 นาที อาจใช้การหายใจช่วยดึงออกจากความคิดเรื่องงานชั่วครู่
2. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
    โรคนี้พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะท่อปัสสาวะสั้นกว่า โอกาสที่จะติดเชื้อแบคทีเรียจากทวารหนักจึงมีมากกว่า ยิ่งถ้าลืมเข้าห้องน้ำนานๆ หรือทำงานที่ต้องเดินทางตลอด และมักอั้นปัสสาวะเป็นเวลานานๆ 
    ปรับไลฟ์สไตล์

  • ง่ายๆ คือพยายามดื่มน้ำมากๆและอย่ากลั้นปัสสาวะ



3. โรคอ้วน
    การรับประทานอาหารหน้าจอคอมฯ ทำให้มีแนวโน้มทำให้รับประทานอาหารได้มากขึ้นและอ้วนขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว ยิ่งผู้หญิงมีโอกาสอ้วนมากกว่าผู้ชาย 
     ปรับไลฟ์สไตล์

  • หยุดพฤติกรรมกินไปทำงานไป ใส่ใจกับอาหารที่กิน หาความสมดุลระหว่างของมัน ของทอด นม เนย ชีส ผักและผลไม้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
4. กรดไหลย้อน
    โรคนี้เป็นกันมาก สังเกตได้จากความถี่ของโฆษณาเวชภัณฑ์ประเภทบรรเทาอาการแสบร้อนกลางหน้าอก เพราะอาหารไม่ย่อย หรือมีกรดเกินในกระเพาะ ถ้าคุณเป็นคนทำงานจนลืมเวลา กินอาหารไม่เป็นเวลา มีมื้อดึกก่อนนอน เวลากินรีบกินจนลืมเคี้ยว โปรดปรานอาหารประเภททอดๆมันๆและอาหารรสจัด เป็นคนเครียด สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ คุณคือคนที่เสี่ยงกับการเป็นโรคนี้ โรคกรดไหลย้อนที่เกิดจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปบนหลอดอาหาร ถ้าปล่อยไว้เนิ่นนานอาจทำให้หลอดอาหารอักเสบและพัฒนาไปสู่มะเร็งหลอดอาหาร
    ปรับไลฟ์สไตล์

  • วิธีที่ได้ผลที่สุดคือ เปลี่ยนนิสัยการกิน เลี่ยงหรือลดเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ น้ำอัดลมและแอลกอฮอล์ ไม่เน้นสไตล์การแต่งตัวทีคับ รัดที่เอวและหน้าท้องมากๆ
5. เครียดลงกระเพาะ
    คุ้นหูกันดีกับโรคนี้ คื่อ กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ จนเกิดอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการปั่นป่วนในช่องท้อง รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน เสียดหน้าอกเพราะอาหารไม่ย่อย สัญญานเตือนว่าเราเครียดมากจนเข้าใกล้โรคกระเพาะอาหารแล้วหรือยังนั้น ดูได้จากอาการรู้สึกเบื่ออาหาร มึนงง หงุดหงิดบ่อยๆ นอนไม่หลับ และท้องผูก
    ปรับไลฟ์สไตล์

  • โรคนี้มาจากความเครียดเป็นหลัก ฉะนั้นต้องหาวิธีหรือกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียดในแบบฉบับของตัวเอง ไปพร้อมๆกับนิสัยการกิน ที่สำคัญต้องกินอาหารให้เป็นเวลาและครบทั้ง 3 มื้อ
โปรดจงจำไว้ว่า อย่ามัวแต่ทำงานจนลืมร่างกายของตนเอง ให้เวลากับอาการผิดปกติในร่างกาย หาที่มาให้พบ จัดการเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อให้เรามีร่างกายที่พร้อมและใจที่มีพลังสู้กับงานนอกบ้านและในบ้านอย่างเต็มที่