เพราะ ยานั้นจะทำให้ลำไส้ต้องกักเชื้อโรคเอาไว้ให้นานขึ้นไปอีก แต่ควรจะถ่ายให้หมด เพราะจะทำให้ร่างกายทำงานด้วยการปล่อยสารพิษหรือเชื้อโรคออกมา และเมื่อปล่อยหมด การเคลื่อนตัวของลำไส้ก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมอีกครั้ง
วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อเกิดอาการท้องเสียในช่วง 24-72 ชั่วโมง (1-2วันแรก)
- หยุดรับประทานอาหาร 2 ถึง 4 ชั่วโมง เพื่อให้ลำไส้หยุดการทำงาน
- ดื่มเกลือแร่ผงผสมกับน้ำต้มสุกหรือใช้เกลื่อป่นผสมกับน้ำต้มสุก เพื่อทดแทนน้ำกับเกลื่อแร่ที่ร่างกายสูญเสียไป
- หลังจากนั้นจึงเริ่มรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวใส่เกลือ ข้าวต้ม หรือ โจ๊ก งดอาหารรสจัดและอาหารที่มีกากใยมาก เช่น ผัก ผลไม้
- รับประทานโยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติก (probiotic yogurt) เชื้อแบคทีเรียมีชีวิตเหล่านี้สามารถช่วยบรรเทาอาการท้องร่วงบางชนิดและทำให้หายเร็วขึ้นได้
- ลองรับประทานแบรทไดเอ็ท (BRAT diet) ได้แก่ กล้วย , ข้าว, แอปเปิลหรือน้ำแอปเปิล และขนมปังปิ้งแห้ง อาหารสูตรนี้เหมาะสำหรับเด็ก แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถรับประทานได้เช่นกัน ความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องเน้นเฉพาะอาหารเหล่านี้ แต่การรับประทานอาหารเหล่านี้เพิ่ม อาจช่วยให้อาการท้องร่วงหายเร็วขึ้นได้
- งดดื่มนม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน จนกว่าจะหายท้องเสีย
- หลีกเลี่ยงยารักษาโรคท้องร่วง ยกเว้นแพทย์สั่ง เนื่องจากท้องร่วงเป็นการขับสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากร่างกาย ดังนั้นทางเดียวที่จะดีขึ้นได้คือต้องยอมถ่ายเหลว
- รักษาตามอาการ เช่น ให้ยาแก้อาเจียน ยาแก้ปวดท้อง หรือ ยาลดไข้
อาการที่ควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
- อาเจียนหรือท้องร่วงในเด็กแรกเกิดอายุน้อยกว่า 3 เดือน (พบแพทย์ทันทีที่มีอาการ)
- เด็กอายุเกิน 3 เดือนที่มีอาการอาเจียนนานกว่า 12 ชั่วโมง
- ท้องร่วงนานกว่า 3 วัน
- อุจจาระมีเลือดปน มีสีดำ หรือดูมีน้ำมันปน
- อาการปวดท้องที่ไม่ดีขึ้นเมื่อได้ถ่ายอุจจาระ
- อาการขาดน้ำ เช่น เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หรือตะคริว มีไข้ร่วมกับท้องร่วง โดยไข้สูงกว่า ควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนในกรณีดังต่อไปนี้
- อาเจียนหรือท้องร่วงในเด็กแรกเกิดอายุน้อยกว่า 3 เดือน (พบแพทย์ทันทีที่มีอาการ)
- เด็กอายุเกิน 3 เดือนที่มีอาการอาเจียนนานกว่า 12 ชั่วโมง
- ท้องร่วงนานกว่า 3 วัน
- อุจจาระมีเลือดปน มีสีดำ หรือดูมีน้ำมันปน
- อาการปวดท้องที่ไม่ดีขึ้นเมื่อได้ถ่ายอุจจาระ
- อาการขาดน้ำ เช่น เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หรือตะคริว
- มีไข้ร่วมกับท้องร่วง โดยไข้สูงกว่า 38.3 *c ในผู้ใหญ่หรือสูงกว่า 38.0*c ในเด็ก
ต้นทับทิมนั้นเป็นแค่พุ่มไม้่ขนาดเล็ก ถิ่นกำเนิดอยู่ที่อิหร่าน มีรสเปรี้ยวอมหวาน ฤทธิ์ร้อน ช่วยในการกระตุ้นลมปราณาลำไส้ใหญ่ แก้ท้องเสีย ช่วยสมานแผลในลำไส้ได้
วิธีการคือ นำเปลือกทับทิมมาตากแดดให้แห้ง นำมาบดแล้วกินแบบผง หรือจะต้มเป็นน้ำทับทิมดื่มทุกวันก็ได้ จะช่วยทำให้อาการดีขึ้น