หน้า(ฤดูกาล)แห่งฝน..มาถึงแล้ว ระวังน้องสาวให้ดี |
เนื่องจากในช่วงหน้าฝนนั้นอากาศจะชื้น จึงส่งผลให้เสื้อผ้านั้นตากไม่แห้ง ทำให้เกิดการติดเชื้อราได้ที่บริเวณน้องสาวหรือบริเวณช่องคลอดนั้นเอง ส่งผลให้เกิดอาการตกขาวและเกิดอาการคัน ควรซักและอบเสื้อผ้าให้แห้งสนิท และหมั่นตรวจเช็คสภาพของชุดชั้นใน หากเกิดความผิดปกติขึ้นให้รีบเปลี่ยนเป็นชุดชั้นใหม่ทันที นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการทานยาปฏิชีวนะในระหว่างเป็นหวัด ไอ หรือจาม เพื่อป้องกันไม่ให้ยาไปกดภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำงานอ่อนแอลง จนเป็นสาเหตุการเกิดเชื้อราในช่องคลอดนั่นเอง
นอกจากนี้ยังพบ การใช้ห้องน้ำสาธารณะก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของ "การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อพยาธิ" โดยเฉพาะห้องน้ำสาธารณะที่ไม่สะอาด ดังนั้นคุณสาว ๆ ควรเลือกเข้าห้องน้ำที่มั่นใจว่าสะอาด หรือควรหลีกเลี่ยงการใช้ห้องน้ำสาธารณะ ขณะเดียวกันหลังการเข้าห้องน้ำ ควรเช็ดหรือซับบริเวณจุดซ่อนเร้นให้แห้งสนิท โดยไม่ปาดจากหน้าไปหลัง พร้อม ๆ กับการเลือกสวมใส่กางเกง หรือกระโปรงที่มีการระบายเพื่อป้องกันความอับชื้น
เชื้อโรคที่หลายคนคาดไม่ถึงในช่องคลอดอย่าง "เชื้อเริม" เป็นไวรัสชนิดเดียวกับโรคอีสุกอีใส (แต่คนละสายพันธุ์) ที่ส่งผลให้คุณสาว ๆ เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน อาจมีอาการคัน เจ็บจี๊ด ๆ หรือปวดแสบปวดร้อน ต่อมาจะมีอาการบวม และอีก 2-3 วันจะมีตุ่มน้ำพองใสเหมือนหยดน้ำเล็ก ๆ มีขอบแดง ตุ่มน้ำมักจะแตกออกใน 24 ชั่วโมง และตกสะเก็ดเป็นแผลถลอกตื้น ๆ อย่างไรก็ตามตุ่มนั้นอาจจะรวมเป็นกลุ่มใหญ่ และเป็นแผลกว้างทำให้ปวดมาก
อาการดังกล่าวสามารถป้องกันได้ ด้วยการดูแลภายในช่องคลอดให้มีความเป็นกรด เช่น ในระหว่างที่มีประจำเดือน ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ และล้างทำความบริเวณช่องคลอดด้วยน้ำสะอาด เนื่องจากเลือดประจำเดือนมีความเป็นด่าง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย
สำหรับคุณสาว ๆ ที่ทำงานประจำและมีรูปร่างท้วม แถมไม่ค่อยออกกำลังกาย ประกอบกับความอับชื้นบริเวณดังกล่าวนั้น คุณหมอเผยว่า สามารถพบ "การอุดตันรูขุมขนบริเวณหัวหน่าว" ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหัวสิวและเกิดอาการเจ็บปวดได้ ดังนั้น การหลีกเลี่ยงหรือป้องกันอาการอุดตันดังกล่าว ทำได้โดยการอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย และเช็ดให้แห้งทันทีหลังการออกกำลังกาย หรือมีเหงื่อออกมาก ก็ช่วยป้องกันโรคติดเชื้อบริเวณจุดซ่อนเร้นได้